วันที่ 19 ธ.ค. 2554 เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติทับลานพยายามนำกำลังเช้ารื้อรีสอร์ทที่สร้างรุกล้ำเขตพื้นที่อุทยานฯ แต่โดนขัดขวางจากม็อบชาวบ้านไม่ให้เข้าไปดำเนินการ โดยอ้างว่ารีสอร์ทเหล่านี้เป็นแหล่งสร้างรายได้และความเจริญให้แก่ชุมชน คืนวันเดียวกันเจ้าหน้าที่จึงกลับมาอีกครั้งเพื่อหลีกเลี่ยงการขัดขวางจากชาวบ้านและทำการรื้อถอนรีสอร์ทเหล่านี้ตามคำสั่งของศาล ประเด็นที่น่าสนใจอีกกรณีก็คือ รีสอร์ทจำนวนมากมายและมีพื้นที่กว้างขนาดนี้ไม่ใช่กระสอบทรายที่พอข้ามคืนเช้ามาก็ก่อสร้างเสร็จ มันต้องมีการยื่นขออนุมัติ ต้องมีการปรับพื้นที่รวมทั้งการก่อสร้างถาวรวัตถุกันเป็นเดือนๆ ทางเจ้าหน้าที่จะไม่มีใครรู้เรื่องเลยเชียวหรือ
22 ธ.ค. 2554 เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้แผนเดอะแคทอะเกน(ปิดประตูตีแมว)เข้าตะลุยบ่อนย่านเตาปูนซึ่งมีชื่อเสียงเก่าแก่แต่ยังไม่เคยทำอะไรได้สักที ส่วนหนึ่งที่น่าจะมามาจากอิทธิพลของเจ้าของบ่อนแล้ว ยังมีชาวบ้านในละแวกให้ความช่วยเหลือเป็นหูเป็นตาให้กับบ่อน และในวันที่ตำรวจบุกนั้น ชาวบ้านส่วนหนึ่งพยายามพังกำแพงด้านหลังบ่อนเพื่อช่วยนักพนันเหล่านั้นหนีรอดจากการจับกุม คาดว่าเจ้าของบ่อนคงได้บำรุงชาวบ้านในท้องถิ่นไม่ใช่น้อย อีกทั้งชาวบ้านส่วนหนึ่งก็เข้าไปทำงานในบ่อนอีกด้วย
ทั้งสองคดี เป็นเรื่องที่มีจุดร่วมเดียวกันคือ ชาวบ้านที่ได้ผลประโยชน์เป็นฝ่ายปกป้องผู้กระทำผิด
แทนที่จะเป็นผู้ที่ช่วยเหลือฝ่ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ
เพียงเพราะผลประโยชน์ที่ตัวเองได้รับ โดยไม่คำนึงถึงผลเสียใดๆ
ไม่ได้คำนึงถึงป่าจำนวนเท่าไร ที่ควรจะเก็บไว้ให้ลูกหลานได้ใช้ประโยชน์บ้าง
ไม่ได้คำนึงถึงว่าบ่อนจะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์อบายมุข หรือยาเสพติด
คล้ายกับคนที่กำลังขุดหาแร่
ขณะที่กำลังขุดเพื่อหวังผลประโยชน์จากแร่ที่ก้นหลุม
ก็กำลังขุดเพื่อฝังตัวเองไว้ที่ก้นหลุมเช่นเดียวกัน
และก็คิดว่าคงไม่ใช่มีแค่ 2 หลุมที่ได้เขียนถึง
บนโลกนี้คงจะมีไม่รู้กี่พัน กี่หมื่นหลุม
และเพราะความเห็นแก่ตัว ความโลภ ความเขลา ก็ทำให้มนุษย์ยังคงตั้งหน้าตั้งตาขุดหลุมฝังตัวเองอยู่ต่อไป
.
(ลงล่าช้าไปหน่อย เพราะว่าเขียนค้างเอาไว้แล้วก็ลืม พอเอามาเขียนต่อให้จบ ก็เลยช่วงเวลามาหลายเดือนแล้ว)