เขาว่า จุดเปลี่ยนหนึ่งของมนุษยชาติ นั่นก็คือ
การที่มนุษย์ได้รู้จัก “ ไฟ “
ตั้งแต่นั้นมา
มนุษย์ก็ไม่ต้องทนกับความมืดมิดในยามค่ำคืน หรือความหนาวเหน็บของฤดูหนาว
เรารู้จักการปรุงสุกอาหาร
การสร้างสรรค์
รวมทั้งอนุภาพของการเผาผลาญทำลาย
“ ไฟ “ ในความหมายที่เป็น นามธรรม (ส่วนใหญ่อยู่ในความหมายเชิง negative)
ไฟในทรวง
ไฟรัก ไฟหลง
ไฟริษยา
ไฟอาฆาต พยาบาท
“ ไฟ “ เหล่านี้จุดได้ด้วยใจ
ดับได้ด้วยใจ
ไฟที่ก่อให้เกิดการเผาไหม้ทำลายผู้อื่น รวมทั้งคุณธรรมในหัวใจของเรา
ดับได้ด้วยใจที่อุดมด้วยธรรม
November 3, 2009 at 6:34 am
~อย่าเล่นกับไฟ~
November 3, 2009 at 7:21 am
อ่านแล้วหายหนาว(เจอไฟ)
November 3, 2009 at 7:52 am
ใช่นะ แต่เปลี่ยนไม่เร็วหรอก หลายพันปี หมื่นปี..มนุษย์มาเปลี่ยนเร็วจริงๆ ผมว่า ด้วยวิทยาศาสตร์ และ การคิดเชิืงอุตสาหกรรม (ดีมาน ซัพพลาย)ไม่กี่ร้อยปีเอง เรียบวุธ
November 3, 2009 at 11:30 am
ไฟคุแร้ว เรียก 191
November 3, 2009 at 4:19 pm
มนุษย์เปลี่ยนไวขึ้นไวจนแทบไม่เหลือเวลาให้หายใจเมื่อใครสักคนประดิษฐ์ ‘ทุนนิยม’ ขึ้นมา
November 4, 2009 at 6:46 am
ไฟจำพวกไฟในทรวง ไฟริษยา ไฟพวกนี้มีมากๆก็ไม่ดีเดี๋ยวไหม้ตัวเองตายยกเว้นไฟในการทำงานอันนี้ควรถูกจุดให้ติดบ่อยๆ
November 4, 2009 at 8:25 am
คนมีไฟ
November 5, 2009 at 10:24 am
"ไฟ"ที่กล่าวถึงในตอนท้ายนี่ หากใครได้รู้จักก้อเกิดจุดเปลี่ยนในชีวิตเหมือนกันค่ะ
November 5, 2009 at 12:16 pm
อนุโมทนา..
November 9, 2009 at 1:01 pm
ไฟให้ทั้งประโยชน์และโทษขึ้นอยู่กับว่าเราจะใช้ในทิศทางไหนเท่านั้นเอง
November 10, 2009 at 4:32 pm
ไหม้มอด