สมัยก่อนแถวบ้านผมมีโรงหนังอยู่สองโรง
โรงหนึ่งใหญ่กว่าอีกโรงหนึ่ง
จำได้ว่าในสมัยเด็กผมเคยดูทั้งสองโรง
และถ้าเลยบ้านผมไปอีกหน่อยประมาณหนึ่งป้ายรถเมล์ก็จะมีอีกหนึ่งโรงใหม่กว่าอีกสองโรงที่ผมบอก
จำได้ว่าในช่วงวัยเด็กปลายๆ ก็มักจะมาดูที่โรงที่สร้างใหม่นี้มากกว่า
และก็จำได้ว่าราคาค่าตั๋วถูกสุด รู้สึกว่าจะแค่ 10 บาท ที่ราคาแพงก็คงจะไม่กี่บาท
ปัจจุบันสองโรงแรกไม่ได้เหลือฉายหนังแล้ว
ส่วนโรงที่ใหม่กว่า ไม่รู้เหมือนกันว่ายังคงฉายหนังอยู่หรือเปล่า แต่คิดว่าคงจะไม่ได้ฉายหนังแล้ว
โรงหนังที่ผมบอกว่าใหญ่กว่าอีกโรงหนึ่ง
เวลาผ่านไปค่อยๆเปลี่ยนเป็นโรงฉายหนังชั้นสอง
เปลี่ยนเป็นโรงฉายหนังโป๊ อยู่พักใหญ่ แต่คิดว่าตำรวจคงจะกวาดล้างโรงหนังโป๊ เลยกลับมาฉายหนังควบตามเดิม
ไม่กี่วันนี้ผมนั่งรถผ่านเห็นไม่มีป้ายบอกว่าฉายเรื่องอะไร คิดว่าคงปิดไปแล้ว
โรงหนังที่เล็กกว่า ฉายหนังได้ยาวนานกว่า เป็นโรงหนังชั้นสอง
จนเมื่อไม่นานมานี้ถึงเปลี่ยนไปเป็นที่เปิดบู๊ทขายของ
ช่วงที่ผมโตขึ้นในสมัยเรียนมัธยมฯ
ช่วงนั้นผมชอบดูหนังมาก ดูทุกอาทิตย์ เรียกว่าค่อนข้าง"เชี่ยวชาญ" เพราะว่านอกจากดูเยอะแล้วยังรับหนังสือเกี่ยวกับหนังอีกด้วย
เวลาดูทีก็ต้องเข้ามาดูแถวทองหล่อ ซึ่งไกลจากบ้านมากเหมือนกัน (นั่งรถประมาณหนึ่ง ช.ม. ถึงหนึ่ง ช.ม.ครึ่ง)
เพราะที่โรงนี้เขาฉายหนัง Hollywood และเป็นโรง sound track
ผมชอบฟัง sound track
ตอนนี้ก็ปิดกิจการไปแล้ว
ปริมาณการดูหนังของผม มาแผ่วไปอย่างมาก ในช่วงเรียนมหาวิทยาลัย
หนังสือเกี่ยวกับหนังก็ไม่ได้รับมานานแล้ว
(แถมราคาค่าตั๋วก็เริ่มแพงมากขึ้นแล้ว-มัลติเพลกซ์เริ่มมาแล้ว)
ทุกวันนี้ผมก็ยังชอบดูหนัง แต่ก็ดูน้อยลง
ด้วยราคาที่แพงขึ้น กับการที่ผมเลือกดูมากขึ้น
โรงหนังแบบเก่า(ที่ไม่ใช่ระบบ Major-EGV -Multiplex) เริ่มลดน้อยถอยลงทุกที
ที่พอจะยังยืนหยัดฉายหนังปกติอยู่ (ที่ไม่ใช่โรงหนังชั้นสอง หรือว่าโรงฉายหนังโป๊)
ก็เห็นจะมีโรงหนังสยาม กับสกาลา
สำหรับโรงหนังลิโด้ หลังจากเกิดไฟไหม้ ก็เปลี่ยนเป็นโรงมัลติเพลกซ์น้อยๆมานานแล้ว
โรงหนังสยาม ผมไม่ค่อยได้ไปดูบ่อยนัก
จะดูโรงลิโด้บ่อยหน่อย เพราะผมชอบดูหนังอินดี้
และที่ลิโด้ส่วนใหญ่จะฉายหนังอินดี้
อีกโรงที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือโรงสกาลา ที่เข้าขั้น classic ไปแล้ว
ถ้าไม่ขี้เกียจออกจากบ้านเกินไปนัก
ผมก็ชอบที่ออกไปดูที่โรงสกาลา จอใหญ่บรรยากาศดี
หลังๆเริ่มเบื่อกับโรง multiplex ที่รอบฉายไม่แน่นอนเลย
เปลี่ยนแม่งทุกวัน (ขอโทษ…พูดคำหยาบ)
แล้วยังมีไอ้ที่นั่งห่..อะไรก็ไม่รู้ที่ละสาม-สีร้อย
มันวิเศษตรงไหนนี่
(ยกเว้นโรงดิจิตอลนะ ผมเคยไปดู 150 บาท ชัดอย่างรู้สึกได้ ที่โรง SF มาบุญครอง แต่คิดว่าน่าจะมีโรงดิจิตอลนี้ทุกสาขานะ)
ผมมองเห็นการเปลี่ยนแปลงของโรงหนังแถวบ้านกับในหลายๆที่แล้ว
รู้สึกว่าทุกวันนี้เราอยู่ในสภาวะที่ล้อมกรอบด้วยการกำหนดจากพวกนายทุน
เป็น unique ขาดความหลากหลาย
และเป็นเพียงผู้ว่ายวนอยู่แต่ในกระแสหลัก
บางทีมันอาจเชี่ยวกรากเกินไปสำหรับปลาตัวน้อยๆที่อ่อนแอ
June 19, 2008 at 3:13 pm
ทุนนิยม ทุนนิยม ทุนนิยม
ท่อง3พยางค์นี้ให้มั่น จิตใจจะได้ไม่หวั่นไหว
เพราะแค่นั่งเรียนในห้องเรียน คำสั้นๆคำนี้ก็กระทุ้งให้จิตใจผมสั่นไหวทุกที
มิพักต้องเอ่ยถึงโรงภาพยนตร์ที่นายทุนแทบจะเดินชนกันตายเลย
June 19, 2008 at 9:24 pm
แผ่นนิยม แผ่นนิยม แผ่นนิยม
ท่อง ๓ คำ (เก้าพยางค์) นี้ให้มั่น จิตจะได้ไม่หวั่ไหว
เพราะแค่ตะลอน ๆ ไปมา คำสั้น ๆ นี้ก็กระทุ้งให้จิตใจเราสั่นไหวทุกที
มิพักต้องเอ่ยถึงโรงพยายนตร์ทีนายทุนแทบจะเดินเอาหัว(ล้าน)โขกกันจนปูดโน
–ช่วงชีพจรลงเท้า —
กลับมาถึงห้องและพอเจียดเวลาดูหนังแผ่น(เถื่อน)ได้ ก็บุญมากแล้ว
(",)
ปล.
เรือง atonement สนุกมาก
ใครไม่ดูถือว่าพลาดสิ่งดีๆ (สิ่งนึง)ในชีวิตไปเลย (อะไรจะขนาดนั้น!? — แต่จริงนะ โดยเฉพาะภาพ ถ่ายได้สวยโคตร)
June 20, 2008 at 8:44 am
ในชีวิตอยากลองดูหนังในโรง ที่ฉายหนังควบซักครั้ง